วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สอบคะ


ภาพกิจกรรมงานมหกรรมระดับนานาชาติ ปีการศึกษา 2553

สามารดูภาพกิจกรรมได้ที่ www.stss.ac.th หรือ copy file

วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

รัก แท้ อิอิ

1. ต้องมีความรู้สึกได้สัมผัสกับความสุขร่วมกับคนๆ นั้น เมื่ออยู่ด้วยกันก็จะมีความสุขมาก ไม่เคยเบื่อที่มีเขาอยู่ใกล้ๆ และเมื่อยามที่เขาห่างไกลไม่ได้เห็นหน้า ก็จะรู้สึกเหงาๆ และคิดถึง ไม่ใช่พอเขาหันหลังให้ยังเห็นชายเสื้อแว้บๆ ก็แทบจะตีปีกโลดเต้นดีใจ
2. ต้องให้ความเคารพนับถือคนๆ นั้น ถ้าจะรักใครสักคน แล้วตั้งหน้าดูถูกไม่เคยให้ความเคารพ ใครอื่นจะเคารพคนๆ นั้นของเรา และการที่ได้รักใคร่กับคนที่ใครๆ เขาดูถูก มันจะเหลือความภูมิใจในคนๆ นั้นสำหรับเราได้ยังไง
3. ต้องรู้สึกว่าคนๆ นั้นเป็นที่พึ่งได้ เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ขึ้นในชีวิต ก็มั่นใจว่าเขาจะอยู่เคียงข้าง เพื่อคอยช่วยเหลือ ไม่ใช่ว่าเรากำลังจะตกตึกอยู่รอมร่อ ก็ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยฉุด
4. ต้องเชื่อมั่นว่าถ้ามีปัญหาใดๆเกิดขึ้น ไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหนสัมพันธภาพก็ยังคงดำเนินต่อไป เพราะคนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ถ้ารู้จักอภัยกันมันก็อยู่กันทน ไม่ใช่ผิดหนเดียวก็ถีบส่ง
5. ต้องเข้าถึงความต้องการ อารมณ์ และความรู้สึกของคนๆ นั้น อย่างถ้ารู้ว่าชอบจะอยู่คนเดียว ตามลำพังบ้างก็ควรเปิดโอกาสได้อยู่กับตัวเองด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่เปิดโอกาสอย่างกระเง้ากระงอด
6. ต้องมีความรู้สึกต้องตาต้องใจในสรีระของคนๆ นั้น ไม่ว่าจะต้องเสน่ห์ในความเป็นหญิงกำยำ หรือในความล้านจนขึ้นเงาวับบนหัวเขา มันก็มีส่วนในความรักเหมือนกัน
7. ต้องรู้สึกว่าเราสามารถจะพูดคุยกับคนๆ นั้นได้ทุกเรื่องอย่างเปิดอก สามารถที่จะขุดความรู้สึกส่วนลึกในหัวใจขึ้นมาพูดได้ ไม่ใช่ต้องปิดบังความรู้สึกส่วนนั้นไว้ เพราะกลัวว่าถ้าพูดออกมาแล้วเราจะอับอาย หรือไม่ก็กลัวว่าเขาได้ยินแล้วจะผงะหงายแล้วเดินหายไปจากชีวิต
8. ต้องรู้สึกว่าคนๆ นั้นเป็นของมีค่าในมือ ถ้าไม่มีเขาสักคนชีวิตของเราก็สูญของมีค่าไป
9. ต้องรู้สึกเต็มใจที่มีส่วนร่วมกับคนๆ นั้นในหลายๆ ด้าน เป็นต้นว่า ความคิด อารมณ์และเวลา แต่ไม่ใช่ร่วมกับเขาไปหมด จนเขาไม่เหลือความเป็นตัวของตัวเอง
10. ต้องรู้สึกอยากมีส่วนร่วมอยากรับฟังทุกอย่าง ไม่ว่าสิ่งนั้นมันเป็นสิ่งที่ดี หรือเป็นสิ่งที่ทุกข์ ที่เรียกว่า ร่วมทุกข์ร่วมสุข เพราะคนที่ต้องการแต่จะร่วมสุข นั่นหมายถึงว่าคุณไม่ได้มีรักแท้กับคนๆนั้น
ถ้ามีครบทุกข้อดังที่กล่าวมา ให้ถือว่ากำลังมีรักแท้โดยสมบูรณ์ แต่ถ้าขาดไปสักข้อสองข้อ ก็ให้โมเม ว่ายังเป็นรักแท้อยู่ แต่ถ้ามีเพียงหนึ่งหรือสองข้อในจำนวนทั้งหมดที่กล่าวมา ก็จงอย่าพยายามหลอกตัวเอง ว่ารักนี้เป็นรักแท้ เพราะไม่เช่นนั้นทั้งสิบคนที่คบอยู่จะเป็นรักแท้ไปหมด

วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ลองใช้ PhotoFunia


มีพี่ ตอนสมัยเรียน เขาบอกว่าง่าย แค่เอารูป เราไปใส่ เอง อิอิ ง่ายๆๆ ไม่เกินความสามารถ


ของเรา แค่ ขำๆๆ เพิ่มรูปภาพ

วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553

3 วิธีเปลี่ยนผิวเสียเป็นผิวสวย



3 วิธีเปลี่ยนผิวเสียเป็นผิวสวย
1ผิวเสียสวยเพราะความเครียด
คุณมีโปรเจ็กต์งานที่ต้องทำให้เสร็จ ขณะที่ชีวิตรักกับเขา คนนั้นก็ดูจะไม่ค่อยโสภาสักเท่าไหร่นัก คุณรู้สึกไม่ค่อยดี เท่าไหร่นัก แถมผิวพรรณคุณยังดูแย่ตามไปด้วย

คุณดูเป็นยังไง? เงาที่มองอกมาจากกระจกคือหญิงสาวใบหน้าอ่อนโรย ผิวแห้งกร้านและหมองคล้ำ แถมยังตาบวมและมีรอยคล้ำใต้ตาอีกต่างหาก

เกิดอะไรขึ้น ดูเหมือนว่าสถานการณ์ในชีวิตที่ไม่เป็นใจทำให้คุณเครียดอย่างช่วยไม่ได้ และทุกครั้งที่คุณเครียดมันจะส่งผลกระทบไปยังผิวของคุณด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ระบบร่างกายของคุณจะมีประสิทธิภาพน้อยลงในการส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกาย และผลของมันก็จะเห็นชัดเจนบนใบหน้า ที่ดูหม่นหมองและไร้ชีวิตชีวา แถมยังอาจเสี่ยงต่อการเกิดสิวเห่อหรือรอยอักเสบแดงตามมาได้ และในระยะยาวอาจส่งผลให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอีกต่างหาก

ทำยังไงดี ลดความเครียดของผิวด้วยการเพิ่มระดับแอนตี้ออกซิแดนต์ภายในร่างกาย และลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระ วิธีหนึ่งก็คือการบริโภคผักและผลไม้มาก ๆ และใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของแอนตี้อกซิแดนต์ อย่างเช่น สารสกัดจากชาเขียว หรือชาขาว ไลโคปีน น้ำมันเกรปซีด โคเอนไซม์คิว 10 หรือวิตามินอี ซึ่งใช้ได้ทั้งรับประทานหรือเจาะแคปซูลเอาน้ำมันใส ๆ ภายในมาทาลงบนผิวหน้าได้โดยตรง

2. สิวบุกเพราะฮอร์โมนทำพิษ

ถ้าคุณมีสิวที่ผุดขึ้นมาโดยหาสาเหตุไม่ได้ โดยเฉพาะที่บริเวณคางในทางการแพทย์จีนบอกว่า คางคือศูนย์รวมของฮอร์โมนเพศหญิง ฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นการกินยาคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ หรือการหมดประจำเดือน ซึ่งล้วนแต่ส่งผลต่อฮอร์โมนสามารถทำให้เกิดปัญหาผิวได้ทั้งสิ้น

คุณดูเป็นยังไง? มีสิวที่คาง ผิวหยาบกร้านสีผิวไม่เรียบเนียน มีรอยแดง และจุดด่างดำ

เกิดอะไรขึ้น เมื่อผู้หญิงต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน ไม่ว่าจะจากการมีประจำเดือน การกินยาคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ การทำงานของธัยรอยด์ผิวปกติ หรือเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ระดับของเอสโตรเจนที่แปรปรวนนี้จะส่งผลให้ผิวเกิดความอ่อนไหวและมีปฏิกิริยาขึ้นมาอย่างทันใด นั่นคืออาจทำให้ผิวคุณเปลี่ยน เกิดมันขึ้นมาอย่างกะทันหัน เกิดสิววัยผู้ใหญ่ รอยแดงและผื่นคัน

ทำยังไงดี ลองปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางออกให้แก่อาการแปรปรวนของฮอร์โมนไม่ว่าจะเป็นการรับฮอร์โมนทดแทน หรือใช้อาหารเสริม นอกจากนี้ เรียกความผุดผ่องของผิวกลับคืนมา ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ออกมาแบบมาเพื่อเพิ่มระดับฮอร์โมนในผิว ที่ใช้ฮอร์โมนที่ได้จากพืชหรือไฟโตเอสโตรเจน อย่างเช่น ถั่วเหลือง เพื่อเสริมการทำงานของผิวอย่างมีประสิทธิภาพ

3. ผิวแห้งกร้านเพราะไลฟ์สไตล์สุดหักโหม

เราทุกคนต่างเคยเป็นมาแล้วทั้งนั้น ทำงานตลอดวัน และออกไปสนุกสนานตลอดทั้งคืนต่อเนื่องกัน แล้วก็ต้องตกใจที่ตัวเองดูแสนโทรมในสัปดาห์ถัดมา นี่คือราคาที่คุณต้องจ่าย จากการอดนอนสะสมกัน แอลกอฮอล์ และการเผชิญกับควันบุหรี่

คุณดูเป็นยังไง? ผิวแห้งกร้าน อาจมีรอยแตกหรือลอกอย่างชัดเจน และมีรอยดำคล้ำใต้ตา

เกิดอะไรขึ้น แอลกอฮอล์ทำให้ผิวอ่อนแอลงอย่างรุนแรง ลองคิดดูสิว่า แทนที่ออกซิเจนจะถูกส่งไปยังเซลล์ทั่วร่างกาย คุณกลับส่งแอลกอฮอล์ทั่วร่างกาย คุณกลับส่งแอลกอฮอล์ที่เป็นสารพิษไปแทน และถึงแม้คุณจะไม่ได้สูบบุหรี่ แต่บาร์ที่เต็มไปด้วยควันบุหรี่ก็ส่งผลเสียต่อร่างกายและผิวของคุณได้ไม่แพ้กันอีกทั้งยังทำให้ระดับวิตามินซีในร่างกายของคุณลดลงอย่างมากด้วย

ทำยังไงดี ทุกครั้งที่ดื่มเหล้าหนึ่งแก้ว ให้ดื่มน้ำสะอาดตามไปด้วยแก้วหนึ่งเสมอ เพื่อให้ผิวของคุณได้รับความชุ่มชื้นตลอดเวลา และปกป้องผิวของคุณด้วยการใช้ครีมที่มีวิตามินซึ่งต่อสู้กับความเครียดและอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะพยายามเพิ่มวิตามินซีให้ผิวให้มากที่สุด เนื่องจากผิวจะสามารถรักษาวิตามินตัวนี้เอาไว้ในผิวได้น้อยลง และเตรียมพร้อมผิวก่อนไปปาร์ตี้ด้วยการเพิ่มวิตามินจำนวนมากเอาไว้ สู้กับควันบุหรี่และแอลกอฮอล์ที่จะทำร้ายผิวของคุณ

วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553

อิทธิพลของสื่อ Internet ในปัจจุบัน

ปัจจุบันนี้สื่อสารมวลชน มีอิทธิพลมากต่อชีวิตของเราในปัจจุบัน สื่อบางชนิดเช่นโทรทัศน์ หรือหนังสือพิมพ์ สามารถสร้างคนให้กลายเป็นฮีโร่ และขณะเดียวกันก็สามารถทำลาย คนบางคนให้แทบอยู่ในสังคมไม่ได้ นี่แหละครับอิทธิพลของสื่อที่ทั้งหอมหวาน และทั้งน่ากลัวในขณะเดียวกัน แต่นั่นก็เป็นสื่อที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันดี เป็นสื่อที่มีผู้รับสื่อวันละหลายล้านคน แล้วสื่อ Internet ล่ะ มีอิทธิพลมากน้อยแค่ไหน เป็นคำถามที่เราต้องมาพิจารณาร่วมกัน
บทความนี้ผมจะกล่าวถึงเฉพาะสื่อ Internet และเฉพาะปัจจุบันนี้ และขีดวงไว้เฉพาะ Internet ในประเทศไทย ก็แน่ละครับผมอยู่ในประเทศไทย จะไปเขียนถึงอิทธิพลของ Internet ในประเทศอื่นได้ยังไง เมื่อพูดถึงสื่อ Internet แล้ว คนทั่วไปอาจเคยได้ยิน แต่ก็ไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร บางคนที่เคยใช้บ้างก็อาจนึกว่าคือ World Wide Web กับ e-mail ซึ่งก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ Internet ทั้งหมด แต่ก็เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ซึ่งสื่อ Internet ที่ผมจะเขียนถึง ก็คือ World Wide Web นี่แหละครับ ไม่ได้กล่าวถึง Internet โดยรวม แต่จะไปตั้งชื่อบทความว่า อิทธิพลของ World Wide Web ในปัจจุบัน มันก็ฟังดูไม่ค่อยเข้าตากรรมการเท่าไหร่
ปัจจุบันนี้มีคนเป็นสมาชิก Internet อยู่เท่าไหร่ ผมก็ไม่มีข้อมูล แล้วก็คิดว่ามันไม่สำคัญด้วย ในเมื่อจำนวนนั้นน้อย น้อยจนไม่ต้องนำมาพิจารณา ผมก็อาศัยความรู้สึกธรรมดาแหละครับ ในการบอกว่าน้อยหรือไม่น้อย ก็ในเมื่อชาวบ้านร้านตลาด ไม่มีใครรู้จัก Internet เลยสักคน ที่ร้ายกว่านั้นบริษัทคอมพิวเตอร์ทั้งหลาย มีไม่กี่บริษัทหรอกครับที่รู้จัก Internet ก็คนที่มาติดต่อกับผมไม่ว่าจากบริษัทใหญ่ หรือบริษัทเล็กนอกจากมี e-mail address ติดนามบัตรไว้โก้ๆแล้ว ไม่รู้อะไรสักอย่าง จำนวนคนใช้ Internet ที่น้อยนี้ ก็แสดงให้เห็นว่าอิทธิพลของสื่อ Internet มีน้อยตามจำนวนสมาชิกไปด้วย เมื่อมีน้อยแล้วผมมาเขียนถึงทำไม ท่านอาจถามอย่างนั้น ที่เขียนถึงอิทธิพลของ Internet ก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมทราบว่าหลายท่านใช้ Internet เป็นประจำ สื่อ Internet อาจเป็นสื่อสำคัญของท่าน จนคิดไปว่าสื่อ Internet นี้เป็นสื่อที่คนอื่นๆจะรับรู้ไปด้วย การมีโฮมเพจที่โด่งดัง การมีชื่อเสียงมีคนรู้จักใน Internet ก็เป็นเพียง การโด่งดังอยู่ในวงแคบๆ เมื่อออกไปนอกวง Internet ก็ไม่มีใครรู้จักท่านแล้ว หยุดก่อนอย่าเพิ่งหมั่นไส้ผม ผมไม่ได้ว่าใครเตือนใครหรอกครับ ผมเขียนบทความนี้เพื่อจะได้เขียนอีกบทความหนึ่งคือ วิธีเป็นผู้เชี่ยวชาญบน Internet เหตุที่ต้องแยกเป็นสองบทความก็เพื่อที่ จะได้ไม่เอาสองเรื่องมาปนกันในบทความเดียว แล้วก็ทำให้ผมมีจำนวนบทความเยอะขึ้นไงครับ
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ก็อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่า ผมจะบอกว่าสื่อ Internet นี้ไม่มีความสำคัญ มิได้ครับ สื่อ Internet โดยเฉพาะ WWW หรือ World Wide Web นี้มีความสำคัญ และจะเพิ่มความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ การที่เราๆท่านๆเข้ามาอยู่ในวงการนี้ก่อน ย่อมได้เปรียบ ในอนาคตเราไม่พูดถึง เพราะชื่อบทความก็บอกอยู่แล้วว่าปัจจุบัน ปัจจุบันนี้ Internet ก็มีความหมาย อย่างน้อยๆก็ในการค้าระหว่างประเทศ อิทธิพลอันแรกของ Internet ก็คือ Internet สร้างภาพพจน์ มีเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่ง มาบ่นกับผมว่าเขาต้องทำโฮมเพจของบริษัทแล้ว ก็เพราะบริษัทต่างประเทศที่ติดต่อด้วย พอเราบอกว่าจะค้าขายกับเขา สิ่งแรกที่เขาถามหาคือโฮมเพจคุณอยู่ที่ไหน อ้าว!แบบนี้แปลว่าอะไร แปลว่าถ้าบริษัทคุณไม่มีโฮมเพจ แสดงว่าบริษัทคุณเชยไม่ทันสมัย แล้วคุณจะมาติดต่อค้าขายสินค้าไฮเทค กับบริษัทเราได้อย่างไร ถ้าเอาสินค้าเราไปขาย บริการไม่ดีทำให้สินค้าเราเสียชื่อ ถ้าขายให้เรา เราก็ต้องคิดหนักแล้ว แค่โฮมเพจยังทำไม่ได้เลย แล้วสินค้าที่จะมาขายให้เรา บอกได้ยังไงว่าไฮเทค ไม่เชื่อเด็ดขาด จริงๆครับเมื่อไม่กี่วันก่อน ก็มีบริษัทหนึ่งมาติดต่อผม เสนอตัวจะช่วยพัฒนาระบบให้ ผมก็ปล่อยให้คุยโม้ไป ระบบจะดีอย่างโน้นอย่างนี้ เมื่อโม้จบแล้วผมก็ถามว่า บริษัทคุณมี Internet ไหม เขาก็บอกว่าไม่มีมันแพง คงไม่ต้องบอกนะครับว่า ผมจะสนใจบริษัทนี้หรือไม่ โถแค่ Internet ยังไม่รู้จักเลย จะมาพัฒนาอะไรได้ (ทั้งที่ความจริงเขาอาจมีทีมงานที่เก่ง มีผลงานที่ดีก็ได้) นี่แหละครับอิทธิพลอย่างแรก คือภาพพจน์ที่ทำให้เรามอง บริษัทนั้นว่าทันสมัยหรือไม่ มีความสามารถเพียงใด
ถัดจากเรื่องภาพพจน์ Internet ก็เป็นช่องทางการค้า การที่บริษัทคุณมีโฮมเพจ ไม่ต้องทำ e-commerce ครบวงจรอะไรหรอกครับ แค่โฆษณาบริษัทคุณว่ามีอะไรขายบ้าง แค่นั้นก็พอแล้ว บริษัทคุณอาจได้ลุกค้าขาจร ซึ่งจะกลายเป็นขาประจำในอนาคต คิดดูนะครับขนาดโฮมเพจ isc นี้ เป็นภาษาไทยทั้งหมด แต่หน้าแรกมี e-mail ของผมอยู่ ผมยังได้รับ e-mail จากประเทศจีน ติดต่อมาเพื่อขอซื้อกระดาษคราฟ เป็นไปได้ยังไงแต่เป็นไปแล้ว คือเขาพยายามติดต่อหาผู้ขายในประเทศไทย เขาก็พยายามหาใน Internet แล้ว แต่ขอโทษเถอะบริษัทผลิตกระดาษ ที่เป็นบริษัทในเครื่องของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย(มั้ง) ไม่มีโฮมเพจหรือข้อมูลใดๆในเขาติดต่อทาง internet ได้เลย กลายเป็นหน้าที่ของผม ที่ต้องไปหาข้อมูลมาตอบให้เขา กว่าจะได้ e-mail ของคนขาย ก็เสียเวลาอธิบายว่าผมเป็นใครมาเกี่ยวข้องได้ยังไง งานนี้ทำฟรีเพราะเห็นว่าจะขายของให้ต่างประเทศได้ในยุค IMF นะเนี่ย แต่ทางที่ดีบริษัททั้งหลายช่วยทำโฮมเพจ แล้วไปฝากข้อมูลไว้ตาม search engine เพื่อคนซื้อจะได้ไปหาเอง ไม่ต้องดำน้ำ e-mail มาหาผมอีก
นอกจากอิทธิพลต่อการค้าระหว่าประเทศแล้ว ลองมาดูอิทธิพลต่อสังคมบ้าง ผมคิดว่าท่านคงรู้จัก pantip.com กันดี pantip.com ได้รับเกียรติจากหนังสือพิมพ์ ว่าเป็นแหล่งปล่อยข่าวลือชั้นดี ทาง hostmaster ของที่นั่นก็ได้รับเชิญไปสนทนากับตำรวจหลายครั้งแล้ว มีพรรคการเมืองมีนักการเมือง ที่คอยมาเขียนข้อความปกป้องตนเอง หรือทำลายฝ่ายตรงข้ามอยู่บ่อยๆ แสดงว่า webboard นี้มีอิทธิพลพอสมควร โดยตัว WWW เองอาจมีคนดูไม่มากเมื่อเทียบกับสื่ออื่น แต่การที่มีคนมาดูแล้วนำไปพูดต่อ กระจายข่าวไปเรื่อยๆ นี่แหละครับทำให้ Internet มีอิทธิพลขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว การปล่อยข่าวทาง webboard นั้นง่าย ไม่เปิดเผยตัว ถ้าปล่อยข่าวมาจาก account ของผู้ให้บริการ Internet โดยใช้ account ประเภทใช้แล้วทิ้ง ก็จับมือใครดมไม่ได้ เมื่อเขียนมาถึงนี่แล้ว เดี๋ยวท่านจะว่าผมทำให้ webboard เสียชื่อเสียง จริงๆแล้วข้อดีของ webboard นั้นมีมากกว่าข้อเสีย ผมก็ได้ข้อมูลหลายๆอย่าง ความคิดเห็นในหลายแง่มุม ความรู้ดีๆหลายๆเรื่อง ก็จาก pantip.com นี่แหละครับ (อ้างชื่อในทางเสีย แล้วต้องอ้างชื่อในทางดีด้วย) คนที่ใช้ Internet จำนวนมาก ก็คือนักศึกษาในมหาวิทยาลัย คนที่ไปดู webboard ต่างๆก็คือคนกลุ่มนี้ด้วย ทัศนคติ ความคิดเห็นใน webboard กลุ่มต่างๆ ย่อมมีอิทธิพลไม่มากก็น้อย ต่อนักเรียน นักศึกษา เหล่านี้
สรุป สื่อ Internet โดยเฉพาะ World Wide Web มีอิทธิพลพอสมควร ต่อบริษัทที่ทำการค้ากับต่างประเทศ มีอิทธิพลด้านภาพพจน์ต่อ บริษัทที่ค้าขายหรือให้บริการเกี่ยวกับ IT และ webboard ยังมีอิทธิพลในแง่การกระจายข่าว และมีอิทธิพลต่อนักเรียน นักศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ใช้ Internet มาก(ที่สุด) อีกด้วย ดังนั้นเราควรมาช่วยกัน สร้างโฮมเพจเพื่อเผยแพร่สินค้าไทย สร้างโฮมเพจเป็นภาษาไทยที่ให้ความรู้ เขียนข้อความที่เป็นความรู้ สร้างทัศนคติที่ดีใน webboard เสียแต่ในปัจจุบัน เพราะในอนาคตสื่อ Internet จะยิ่งมีอิทธิพลมากขึ้นกว่านี้ ถ้าพวกเราไม่ช่วยกันสร้างสิ่งที่ดี ตัวอย่างที่ดีเสียแต่วันนี้ ผู้ที่มาทีหลังก็อาจทำตามตัวอย่างที่ไม่ดีได้ในวันหน้า